ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คบต.เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวที่ใบอนุญาตจะหมดปี 62-63 นำเข้า MOU โดยไม่ต้องออกนอกประเทศ

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เผยแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน และ 1 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 31 มีนาคม 2563 และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ ดำเนินการในลักษณะนำเข้าตาม MOU โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
“พล.อ.ประวิตร” กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม คบต. ได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี 2562-2563 โดยเสนอให้แรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ (ไม่รวมกลุ่มที่นำเข้าตามระบบ MOU) และกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเหลืออยู่ในวันที่ไปยื่นขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว สามารถดำเนินการในลักษณะนำเข้าตาม MOU โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี โดยประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ขออยู่ต่อ) ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
ส่วนการอนุญาตทำงานจะอนุญาตไม่เกิน 2 ปี โดยแยกเป็น 2 ห้วงเวลา คือ 1) ใบอนุญาตทำงานหมดอายุก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563 อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 2) ใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป อนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565
สำหรับแรงงานกลุ่มอื่นหรือแรงงานที่ไม่ประสงค์จะดำเนินการตามแนวทางนี้ เมื่อสิ้นสุดการอนุญาตทำงานแล้วต้องเดินทางกลับประเทศ หากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต้องเดินทางเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมายตามระบบ MOU เท่านั้น
สำหรับระยะเวลาดำเนินการเพื่อขอรับใบอนุญาตทำงานและการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรชั่วคราวจะเริ่มวันที่ 15 สิงหาคม 2562 หรือภายใน 15 วันนับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยแรงงานต่างด้าวสามารถยื่นคำขออยู่ต่อในราชอาณาจักรกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ก่อนระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุด 90 วัน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการ ณ ที่ตั้งสำนักงานของแต่ละหน่วยงานเป็นหลัก และดำเนินการในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยในกรุงเทพมหานครมอบหมายให้อธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้พิจารณา ในส่วนภูมิภาคมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา
ทั้งนี้ “พล.อ.ประวิตร” ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการ ดังนี้ 1) ให้กระทรวงแรงงานนำแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี 2562-2563 ตามที่ได้เห็นชอบในวันนี้ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ 2) ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบและดำเนินการตามมติที่ประชุม 3)ให้กระทรวงแรงงานประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตามกฎหมายให้นายจ้าง/สถานประกอบการ แรงงานต่างด้าวและประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้และรับผิดชอบร่วมกัน และ 4) ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มงวดต่อไป
“ขณะนี้ มีแรงงานต่างด้าว ที่จะต้องดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว จำนวน 2,056,467 คน แบ่งเป็น แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ กลุ่มที่การอนุญาตจะสิ้นสุดก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีจำนวน 587,533 คน เป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม จำนวน 575,493 คน กลุ่มประมงฯ มาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 จำนวน 12,040 คน และกลุ่มที่การอนุญาตจะสิ้นสุดตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2563 มีจำนวน 1,468,934 คน โดยเป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม จำนวน 281,777 คน และกลุ่มจัดทำ/ปรับปรุง ทะเบียนประวัติ จำนวน 1,187,157 คน”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สมาคมการประมงฯพบ‘บิ๊กอู๋’ถกปัญหานำเข้าแรงงานต่างด้าว

สมาคมการประมงฯพบ‘บิ๊กอู๋’ถกปัญหานำเข้าแรงงานต่างด้าว Facebook Twitter Google+ LINE สมาคมการประมงฯพบ‘บิ๊กอู๋’ถกปัญหานำเข้าแรงงานต่างด้าว เมื่อวันที่ 7 พ.ค. สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นำโดยนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงฯ เข้าพบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พูดคุยถึงปัญหาแรงงานประมงที่ใบอนุญาตจะหมดอายุในวันที่ 1 พ.ย.2562 และ 31 มี.ค.2563 จำนวน 30,000 กว่าคน ซึ่งหากดำเนินนโยบายนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศภายใต้บันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู)จะทำให้เรือประมงทั้งประเทศขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้เรือประมงต้องจอดทั้งประเทศ จะเกิดปัญหาใหญ่ ดังนั้น 1.สมาคมการประมงฯจึงขอให้กระทรวงแรงงานทบทวนนโยบายในการที่จะส่งแรงงานกลับประเทศ โดยขอให้ประเทศต้นทางเข้ามาดำเนินการเปลี่ยนใบอนุญาตในประเทศไทยที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ซึ่งรมว.แรงงานสั่งให้อธิบดีกรมจัดหางานดำเนินการตามที่สมาคมการประมงฯร้องขอ โดยทำเรื่องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบโดยเร็ว 2.ปัญหาเรื่องการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศภายใต้เอ็มโอยูที่ยังติดปัญหาอยู่ เริ่มจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี...

การเปลี่ยนนายจ้างแรงงานต่างด้าว 2562

แรงงานต่างด้าวสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ หากเอกสารครบและเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมการจัดหางาน ซึ่งขั้นตอนง่ายไม่ยุ่งยาก (ข้อมูลจาก  http://thainews.prd.go.th/th/website_th/news/news_detail/WNSOC6107130010008 ) ปัจจุบัน พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 กำหนดให้แรงงานต่างด้าวสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้โดยให้นายจ้างเก่าต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่แรงงานต่างด้าวออกจากงานไม่ว่าด้วยเหตุใด หากไม่แจ้งจะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเดิมกำหนดให้แรงงานต่างด้าวเปลี่ยนนายจ้างได้ 5 กรณี คือ 1.นายจ้างเลิกจ้าง นายจ้างเสียชีวิต 2.นายจ้างล้มละลาย 3.นายจ้างกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายร่างกายลูกจ้าง 4.นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง หรือกฎหมายคุ้มครองแรงงาน 5.ลูกจ้างทำงานในสภาพการทำงาน หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่อาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย สำหรับนายจ้างใหม่ที่รับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน จะต้องดำเนินการแจ้งเปลี่ยนนายจ้างที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่นายจ้างเดิมอยู่ และต้องมีเอกสารใบแจ้งออกจากนายจ้างเดิม โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการ...

ไปรษณีย์ไทย ลงโทษไล่ออกแล้ว! เจ้าหน้าที่ลอบขน 13 แรงงานต่างด้าว

วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 - 15:12 น. Facebook Twitter Google+ LINE ไปรษณีย์ไทย ลงโทษ ไล่ออกเจ้าหน้าที่ลอบขน 13 แรงงานต่างด้าว หลังตำรวจจับกุมได้ขณะขับรถไปหาดใหญ่ ระบุพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันที่ 14 พ.ค.  บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)  ชี้แจงว่ากรณีเจ้าหน้าที่ขับรถขนส่งไปรษณีย์ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เชื้อสายฮินดู 13 ราย เพื่อนำไปส่งที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปรษณีย์ไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน พบว่าเจ้าหน้าที่ขับรถ คือ  นายธนาชัย มั่งทิม  เป็นเจ้าหน้าที่ขับรถขนส่งไปรษณีย์ทะเบียน 51-6730 กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทั้งนี้  พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดวินัยร้ายแรง ไปรษณีย์ไทยได้ไล่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกจากการปฏิบัติหน้าที่แล้ว  รวมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด พร้อมทั้งได้กำชับให้หน่วยงานทุกสังกัดกำกับดูแลการทำงานของเจ้าหน...